we study tour logo we study tour : singapore we study tour : australia we study tour : new zealand we study tour : england we study tour : canada we study tour : switzerland

            ประเทศนิวซีแลนด์ตั้งอยู่บริเวณใต้เส้นศูนย์สูตร ใกล้กับประเทศออสเตรเลีย ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก และทะเลทัสมัน ทางด้านตะวันตก มีขนาดพื้นที่เทียบเคียงกับอังกฤษหรือญี่ปุ่น ลักษณะภูมิประเทศประกอบไปด้วย เกาะใหญ่ 2 เกาะ คือ เกาะเหนือ (North Island) และ เกาะใต้ (South Island) และเกาะเล็กๆทางตอนใต้ คือ เกาะสจ๊วต (Stuart Island) รวมถึงเกาะเล็กๆอีกจำนวนหนึ่ง

            พื้นที่โดยรวมของประเทศมีขนาด ประมาณ 268,105 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วย ชายหาดมากมาย เทือกเขาสูง พื้นที่ราบที่ใช้เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำพุร้อน บ่อโคลนเดือด ภูเขาไฟที่ดับแล้วและยังไม่ดับ ฟยอร์ด (Fjord) ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบกลางเกาะ ในเกาะเหนือมีภูเขาไฟ ซึ่งมี 3 แห่งที่ยังคุกรุ่นอยู่ มีธารน้ำร้อน น้ำพุร้อน พื้นที่ราบซึ่งอุดมสมบูรณ์เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ หาดทราย ทะเลสาบขนาดใหญ่หลายแห่ง ส่วนในเกาะใต้มีเทือกเขาเซาท์เธอร์นแอลป์ ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบ ซึ่งอยู่ท่ามกลางภูเขาและฟยอร์ด
 
เวลลิงตัน (Wellington)

            เป็นเมืองหลวงของนิวซีแลนด์ ตั้งอยู่ตอนใต้ของเกาะเหนือ มีประชากรเป็นอันดับ 2 ประมาณ 3 แสนกว่าคน มีความสำคัญด้านการปกครอง และเป็นจุดเชื่อมระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้ มีสมญานามว่า "Windy City" หรือ เมืองลมแรงเพราะอยู่ในจุดรับลม ที่ผ่านช่องแคบคุดเข้ามา เมืองสำคัญแห่งเกาะใต้

ไครส์เชิร์ช (Christchurch)
          ตั้งอยู่เกาะใต้ มีประชากรเป็นอันดับ 3 ประมาณ 3 แสนคน รองจากโอ๊คแลนด์ และเวลลิงตัน แต่มีพื้นที่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ไครส์เชิร์ช ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เป็น "อังกฤษ" เสียยิ่งกว่าอังกฤษแท้ๆ นอกจากบ้านเมืองจะคล้ายคลึงกับเมืองในประเทศอังกฤษแล้ว ยังมีแม่น้ำเอวอน (Avon) ไหลผ่านกลางเมือง
 
ควีนสทาวน์ (Queenstown)
          ไม่มีเมืองไหนในนิวซีแลนด์ที่จะสนุกสนานมีชีวิตชีวาและ "นอนดึก" เท่าที่ควีนสทาวน์ ยามกลางวันมีกิจกรรมนานัปการให้ทำทั้งในบริเวณตัวเมือง เมืองใกล้เคียง ตัวเมืองควีนสทาวน์ตั้งอยู่ริมทะเสาบวาคาทีปู (Waktipu) จึงมีวิวสวยของเทือกเขาสีฟ้า ยอดเขาหิมะปกคลุมขาว สะท้อนเงา ทะเลสาบ ให้คนชอบธรรมชาติที่งดงามได้ชื่นชมกันอีกตามเคย กิจกรรมสำคัญในเมืองนี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่สร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิต ในฤดูร้อนจะเนืองแน่น ไปด้วยคนหนุ่มสาวและครอบครัวลูกเด็กทุกเพศวัย ฤดูหนาวก็เนืองแน่นไปด้วยนักเล่นสกี จึงเป็นเมืองที่ไม่มีวันเงียบเหงาเลยตลอดทั้งปี
 
ภาษา
          ชาวนิวซีแลนด์เกือบทั้งหมด พูดและใช้ภาษาอังกฤษ แต่มาวันนี้กำลังมีกระแสของคนท้องถิ่นกำลังสนใจพูดภาษาเมารีมากขึ้น ซึ่งภาษาเมารีนี้ จัดเป็น ภาษาราชการภาษาหนึ่งของนิวซีแลนด์ มีการใช้คำเมารีในบทสนทนาประจำวัน เช่น คำว่า "พาเกฮา" ซึ่งแปลว่า "ไม่ใช่พวกเมารี" และ "เคีย โอร่า" ซึ่งเป็นคำทักทายแทนคำว่า Hello นอกจากชื่อเมืองใหญ่ๆ แล้วชื่อสถานที่ต่างๆทั้งในเกาะเหนือและเกาะใต้ มักจะเป็นภาษาเมารี สะท้อนให้เห็นถึง การตั้งถิ่นฐานมาเป็นมาเวลานานของชาวเมารี และความเป็นประชาชนแห่งดินแดน หรือ "แทงกาท้าพีนัว"
 
วัฒนธรรม
          วัฒนธรรมของชาวนิวซีแลนด์แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ วัฒนธรรมของคนผิวขาวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับชาวยุโรปและอเมริกา และวัฒนธรรม ของชนเผ่าเมารี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมประเพณีและพิธีรีตองต่างๆ ชาวนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ มีมาตรฐานการครองชีพที่ดี เกือบทุกครัวเรือนมีโทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์ รถยนตร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งคอมพิวเตอร์ด้วย นับว่าเป็นเครื่องอำนวยความสะดวก บ้านเรือน ที่อยู่อาศัยในนิวซีแลนด์มีคุณภาพสูง และชาวนิวซีแลนด์นิยมใช้จ่ายเงินทองและเวลากับการซื้อขายปรับปรุงบ้าน หรือบำรุงรักษาบ้าน
 
เวลา
          นิวซีแลนด์ตั้งอยู่ใกล้เส้นแบ่งเวลาสากล (International Date Line) โดยเวลาเร็วกว่ามาตรฐานกรีนิช 12 ชั่วโมง และเร็วกว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง
ยกเว้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม Daylight Saiving Time เวลาจะเร็วขึ้นจากเดิม 1 ชั่วโมง ทำให้เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง
 
สกุลเงินตรา
          นิวซีแลนด์ดอลลาร์ (NZ$) คือ สกุลเงินของประเทศนิวซีแลนด์ หน่วยย่อยของดอลลาร์ คือ เซนต์ เงิน 1 ดอลลาร์มีค่าเท่ากับ 100 เซนต์
โดยธนบัตรนิวซีแลนด์มูลค่า 100, 20, 10, 5, 2 และ 1 ดอลลาร์ เหรียญของนิวซีแลนด์มูลค่า 50, 20, 10 และ 5 เซนต์
 
ระบบการศึกษาประเทศนิวซีแลนด์
  - สถาบันสอนภาษา
  - ระดับมัธยมศึกษา
  - สถาบันโพลีเทคนิค
  - มหาวิทยาลัย

          นิวซีแลนด์เป็นแหล่งการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะระดับประถม และ มัธยมศึกษาเป็นที่ยอมรับในการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีทั่วโลก มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนการสอน ส่งเสริมให้นักศึกษารู้จักคิด มีเหตุผล รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และเปิดรับนักเรียนนักศึกษาในทุกระดับตั้งแต่ สถาบันสอนภาษาเอกชน มัธยมศึกษา จนถึง มหาวิทยาลัย มีหลักสูตรสาขาวิชาให้เลือกมากมาย
 
สถาบันสอนภาษา
          มีสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่เป็นของเอกชน และที่ขึ้นตรงต่อมหาวิทยาลัย หรือโพลีเทคนิค เปิดสอนหลักสูตรทั้งระยะสั้น (ต่ำกว่า 12 สัปดาห์) และระยะยาว คือ 1 ปี ใช้วิธีการสอนที่ทันสมัย เปิดรับนักศึกษาใหม่ตลอดทั้งปี การเข้าเรียนภาษาอังกฤษในสถาบันสอนภาษาของมหาวิทยาลัย มิได้หมายความว่าจะได้รับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นๆ ทันทีเมื่อจบหลักสูตร นักศึกษาทุกคนต้องสอบให้ได้คะแนน TOEFL หรือ IELTS อย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดจึงจะดำเนินการสมัครต่อไป
 
ระดับมัธยมศึกษา
          โรงเรียนมัธยมศึกษาในนิวซีแลนด์ มีประมาณ 400 แห่ง ทั้งโรงเรียนของรัฐบาล กึ่งรัฐบาล และเอกชน โรงเรียนแต่ละแห่งสามารถจัดหลักสูตรการเรียนการสอนเอง แต่ต้องได้รับการรับรองคุณภาพจาก New Zealand Qualification Authority (NZQA) หลักสูตรและมาตรฐานการศึกษาจึงคล้ายคลึงกัน และมีจุดประสงค์เดียวกันคือ เตรียมความพร้อมให้นักเรียนเพื่อสอบให้ได้ประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษาที่รัฐบาลกำหนด นักเรียนทุกคนเมื่อจบระดับ Year 11 (ม.5) จะต้องสอบไล่ข้อสอบกลาง
ของประเทศ เพื่อรับประกาศนียบัตร เรียกว่า NCEA certificate level 1 (National Certificate of Educational Achievement) และเมื่อเรียนจบ Year 12 (ม.6) ต้องสอบข้อสอบที่โรงเรียนเป็นผู้จัดสอบเพื่อรับ NCEA Certificate Level 2 ดังนั้นการเลือกโรงเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ

          นักเรียนต้องเรียนวิชาบังคับพื้นฐาน เช่น ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษา พลศึกษา ดนตรี และ ศิลปะ ส่วนวิชาเลือก จะมีภาษาต่างประเทศ ส่วนนักเรียนระดับ Year 11-12 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะมีวิชาเลือกตามความถนัดมากขึ้น และมีวิชาบังคับน้อยลง วิชาบังคับคือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ การจัดสอบ NCEA Certificate ทั้ง Level 1-2 จัดสอบโดยกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับนักเรียนที่ต้องการวุฒิมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 (ม.6) สามารถใช้ NCEA Certificate Level 2 มาเทียบวุฒิ ม.6 หรือ นักเรียนสามารถเรียนต่อชั้น Year 13 เพื่อสอบ NCEA Certificate Level 3 และใช้ผลการสอบสมัครเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนต่างชาติก็สามารถเข้าสอบได้

          นักเรียนใน Year 11-12-13 ควรเลือกวิชาที่เป็นพื้นฐานของกาเรียนในระดับปริญญาตรีที่ตนสนใจ เช่น สนใจเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจ ก็ควรเลือกเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สถิติ การบัญชี เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ส่วนนักเรียนที่จะเรียนด้านวิทยาศาสตร์ ก็ควรเลือกเรียนวิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา เป็นต้น

          ข้อควรระวัง
          นักเรียนระดับมัธยมศึกษาต้องปฏิบัติตามกฎ ข้อบังคับของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด ต้องเข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 70 – 80% ของเวลาเรียนทั้งหมด

          ภาคการศึกษา
          ภาคเรียนแบ่งเป็น 4 เทอม โดยระหว่างเทอมจะปิดให้นักเรียนพักอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โรงเรียนมัธยมถูกกำหนดให้มีการสอนไม่น้อยกว่า 190 วัน ต่อปีการศึกษา

                    เทอม 1 : กุมภาพันธ์ – เมษายน
                    เทอม 2 : เมษายน – มิถุนายน
                    เทอม 3 : กรกฎาคม – กันยายน
                    เทอม 4 : ตุลาคม – ธันวาคม

          ภาคการศึกษา
          เปิดสอนเดือนกุมภาพันธ์ – ธันวาคม โดยมีวันหยุดในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม ส่วนใหญ่เปิดรับนักศึกษาใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ และกรกฎาคม

 
สถาบันโพลีเทคนิค
          คือ สถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เปิดให้การศึกษาอบรมสายอาชีพ เน้นด้านอุตสาหกรรม ธุรกิจ และการพาณิชย์ มีสาขาวิชา ให้เลือกมากถึง 150 สาขา มีหลักสูตรตั้งแต่ ประกาศนียบัตร อนุปริญญา จนถึงปริญญาตรี และสามารถโอนหน่วยกิต เพื่อเรียนต่อระดับปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยได้ โพลีเทคนิคทั้งหมดมี 22 แห่ง กระจายอยู่ 15 แห่งในเกาะเหนือ และ 7 แห่งในเกาะใต้ นอกจากนี้โพลีเทคนิคยังมีการอบรมหลักสูตรสั้นๆ (Short Courses) และหลักสูตรสอนภาษาอังกฤษอีกด้วย

          คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย
                    1. อายุ 18 ปี ขึ้นไป
                    2. สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 GPA 2 – 2.5
                    3. สอบ TOEFL ได้คะแนนอย่างต่ำ 500 หรือ IELTS 5.0

           ภาคการศึกษา
           เปิดสอนเดือนกุมภาพันธ์ – ธันวาคม โดยมีวันหยุดในเดือนพฤษภาคมและสิงหาคม ส่วนใหญ่เปิดรับนักศึกษาใหม่ ในเดือนกุมภาพันธ์ และกรกฎาคม
 
 
มหาวิทยาลัย
          มหาวิทยาลัยในประเทศมีด้วยกันทั้งหมด 8 แห่ง เป็นของรัฐบาลทั้งหมด โดยอยู่ที่เกาะเหนือ 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่
                    1. University of Auckland อยู่ที่เมือง Auckland
                    2. Massey University อยู่ที่เมือง Palmerston North
                    3. Victoria University of Wellington อยู่ที่เมือง Wellington
                    4. University of Waikato อยู่ที่เมือง Hamilton
                    5. Auckland University of Technology อยู่ที่เมือง Auckland เดิมชื่อ AIT (Auckland Institute of Technology)

           เกาะใต้ มี 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่
                    1. University of Canterbury อยู่ที่เมือง Christchurch
                    2. Lincoln University อยู่ที่เมือง Christchurch
                    3. University of Otago อยู่ที่เมือง Dunedin

           มหาวิทยาลัยเหล่านี้มีหลักสูตร ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก บางมหาวิทยาลัยมีหลักสูตรประกาศนียบัตร และอนุปริญญาด้วย

          คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย

          ระดับปริญญาตรี

          1. นักศึกษาจบชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองจากทบวงมหาวิทยาลัยของประเทศไทย สามารถสมัครเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเรียน Foundation Studies แต่ถ้านักเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จะต้องเข้าเรียนหลักสูตร Foundation Studies Programme ก่อน หรือมิฉะนั้นก็เข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมศึกษาใน Year 13 หรือเลือกเรียนหลักสูตรอนุปริญญาในวิทยาลัยอาชีวศึกษา 2 ปี เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5 แล้วจึงสมัครเรียนต่อปริญญาตรี

          2. คะแนน TOEFL อย่างต่ำ 550 หรือ IELTS 5.5

          ภาคการศึกษา
                    1. ระบบเทอม มี 3 เทอม คือ มีนาคม – พฤษภาคม, มิถุนายน – สิงหาคม, กันยายน – พฤศจิกายน
                    2. ระบบภาคเรียน (Semester) มี 2 ภาค คือ มีนาคม – มิถุนายน, กรกฎาคม – พฤศจิกายน

 




unique
© สงวนลิขสิทธิ 2553 We Study Tour
     
   
     


 
 
   
   
   
   
We Study Tour
© สงวนลิขสิทธิ 2553 We Study Tour