|
|
|
สหราชอาณาจักรประกอบด้วยพื้นที่เกาะ 2 ส่วนใหญ่ คือเกาะใหญ่ (Great Britain) และเกาะไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) พื้นที่เกาะใหญ่ยังแบ่งออกเป็น 3 อาณาเขต คือ อังกฤษ (England) เวลส์ (Wales พื้นที่ติดกับอังกฤษ ทางทิศตะวันตก) และสก๊อตแลนด์ (Scotland อยู่ทางตอนเหนือ ของเกาะใหญ่) ทั้ง 3 อาณาเขตดังกล่าวแบ่งเป็นเขต (Region) ได้ 14 Region |
|
|
สภาพภูมิอากาศ |
สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงมาก จัดอยู่ในประเภทค่อนข้างหนาว มีความชื้นสูง เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ
มีกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นไหลผ่าน ทำให้เกิดหมอกหนาแน่นปกคลุมในบางครั้ง อากาศทางตอนเหนือจะสูงกว่าอากาศทางตอนใต้ และจะมีฝนตก
ทางภาคตะวันตกมากกว่าทางภาคตะวันออก อุณหภูมิโดยเฉลี่ยต่ำสุดในเดือนมกราคม ประมาณ 5 องศาเซลเซียส และสูงสุดในเดือนกรกฎาคม
ประมาณ 18 องศาเซลเซียส
|
|
|
ไฟฟ้า |
ระบบไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศ คือ ระบบ 240 V. AC 50 Hz เหมือนในประเทศไทย แต่จะใช้ปลั๊กไฟ 3 ขา ซึ่งต่างจากบ้านเรา หากต้องการนำอุปกรณ์ไฟฟ้า
ไปด้วย ควรจะเตรียมปลั๊กไฟฟ้า 3 ขาไปด้วยหรืออาจจะไปหาซื้อที่นั่นก็ได้
|
|
|
ประปา |
การประปาของสหราชอาชอาณาจักรมีระบบการทำน้ำประปาที่สะอาดมาก ซึ่งเราสามารถดื่มน้ำจากก๊อกน้ำตามบ้านหรือสาธารณะโดยไม่ต้องผ่านการกรองได้
|
|
|
โทรศัพท์ |
โทรศัพท์สาธารณะมี 2 แบบ คือ แบบหยอดเหรียญ และแบบใช้บัตรโทรศัพท์ ซึ่งสามารถซื้อบัตรโทรศัพท์ได้ที่ทำการไปรษณีย์และร้านค้าที่มีป้าย
Phonecard ซึ่งมีราคาตั้งแต่ UKP 2, UKP5, UKP10 และ UKP 20ให้เลือก หากต้องการโทรศัพท์ระหว่างประเทศในราคาถูก ควรสอบถามเพิ่มเติมจากร้านค้า
หรือใช้บริการ Swiftcall โดยการขอซื้อรหัสที่เรียกว่า pin ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายหนังสือพิมพ์ทั่วไป
|
|
|
สกุลเงิน |
สหราชอาณาจักรใช้สกุลเงิน ปอนด์(Pound) เป็นหน่วยเงินประจำประเทศและเป็นประเทศที่มีอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงที่สุดใน โลกอีกด้วย สกุลเงินแบ่งออกเป็น
ธนบัตรทั้งหมด 4 ชนิด คือ ธนบัตรใบละ 5,10, 20 และ 50 ส่วนเหรียญแบ่งออกเป็น 8 ชนิด คือ 2 และ 1 ปอนด์ และ 50, 20, 10, 5, 2 และ 1 เพนนี
|
|
|
ระบบการศึกษา ประเทศอังกฤษ |
การศึกษาในประเทศอังกฤษ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ
|
- |
ระดับประถมศึกษา |
|
- |
มัธยมศึกษา |
|
- |
อาชีวศึกษา |
|
- |
อุดมศึกษา |
|
- |
สถาบันสอนภาษา |
|
|
|
ปีการศึกษา |
ภาคการศึกษาของสถานศึกษาทุกระดับในราชอาณาจักร เริ่มต้น ภาคแรก ในราวปลายเดือนกันยายน หรือต้นเดือนตุลาคมของปีที่หนึ่ง และสิ้นสุดราวปลายเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคมของปีถัดไป โดยแบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ
|
1. |
ภาคต้น (Autumn Term) เริ่มปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนธันวาคม |
|
2. |
ภาคกลาง (Spring Term) เริ่มกลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนมีนาคม |
|
3. |
ภาคปลาย (Summer Term) เริ่มปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม |
|
|
|
ระดับประถมศึกษา |
ระดับประถมศึกษา (Preparatory School) รับนักเรียนอายุตั้งแต่ 8 -13ปี การศึกษาในระดับนี้จะมุ่งเน้นการเตรียมตัวเข้าสอบ Common Entrance Examination (CEE) เพื่อก้าวไปสู่การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาต่อไป |
|
|
ระดับมัธยมศึกษา |
โรงเรียนมัธยมของเอกชน หรือ Public School รับนักเรียนตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไปที่สอบผ่าน CEE แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนมีให้เลือกทั้งแบบชายล้วน หญิงล้วน และสหศึกษา ทั้งแบบประจำและไป-กลับ มีโรงเรียนบางแห่งเปิดสอนเฉพาะนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ เช่น ทางด้านดนตรี กีฬาด้วย
ในระดับมัธยมศึกษาทางกระทรวงศึกษาธิการและวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ ได้กำหนดให้มีการสอบวัดผลความรู้ และความสามารถ การสอบจะจัดโดยคณะกรรมาธิการอิสระซึ่งมี 5 คณะ ซึ่งผลการสอบดังกล่าว สามารถนำไปใช้ในการสมัครเข้าระดับอุดมศึกษาได้ การสอบแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
|
• |
GCSE (General Certificate of Secondary Education) การสอบระดับนี้จะสอบเมื่อนักเรียนมีอายุประมาณ 16 ปี ขึ้นไป นักเรียนต้องเลือกสอบประมาณ 8-12 วิชา เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ศิลป ฯลฯ และผลการสอบจะแบ่งออกเป็น 7 ระดับ คือ Grade A, B, C, D, E, F และ G นักเรียนที่สอบได้ Grade C ขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน นักเรียนที่สอบ GCSE จนได้วุฒิบัตร สามารถเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรสายสามัญ "A" Level ได้ หรือหลักสูตรสายวิชาชีพ Advanced GNVQ อีก 2 ปี |
|
• |
GCE A Level (GCE Advanced) เป็นการสอบวัดผลความรู้ของนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป วิชาที่สอบมีให้เลือกกว่า 50 วิชา โดยส่วนใหญ่จะสอบเพียง 2-3 วิชาที่มีความสัมพันธ์กัน คือ เลือกสอบทางด้าน Science หรือทางด้าน Humanities ผลการสอบแบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือ A, B, C, D และ E ซึ่ง Grade ทั้ง 5 ระดับนี้ถือว่าสอบผ่านทั้งหมด แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะรับพิจารณารับผู้ที่มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป แต่มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจจะรับผู้ที่ได้คะแนนระดับ A และ B สำหรับผลสอบ GCE "A" Level นี้ เป็นเกณฑ์ที่สถานศึกษาใชัในการพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา |
|
|
ระดับอาชีวศึกษา |
เป็นการศึกษาที่จัดขึ้นสำหรับนักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่ไม่ต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา แต่ต้องการเพียงคุณวุฒิวิชาชีพต่างๆ ในการทำงานสายอาชีพ สถาบันการศึกษาด้านอาชีวศึกษานี้ มีทั้งของรัฐบาลและของเอกชน
|
|
|
สถาบันการศึกษาของรัฐบาล |
มีประมาณ 500 แห่ง เปิดสอนหลักสูตรต่างๆ ได้แก่ บริหารธุรกิจ การโรงแรม การเกษตร วิศวกรรม ช่างเทคนิค ฯลฯ
ในประเทศอังกฤษและเวลส์ การศึกษาระดับอาชีวะจะได้วุฒิบัตรจาก Business and Technician Education Council (BTEC) ส่วนในสกอตแลนด์ จะได้รับวุฒิบัตรจาก Scottish Vocational Education Council (SCOTVEC) แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้ คือ
|
1. |
First Certificate/Diploma (FC/CD)
|
|
|
เป็นการศึกษาที่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่จบการศึกษาจากโรงเรียนที่มีอายุเกินกว่า 16 ปี โดยจะได้รับประกาศนียบัตร GCSE เพียงไม่กี่วิชาหรืออาจจะไม่ได้รับเลย ซึ่งต้องการจะทำงานในสายวิชาชีพต่างๆ เป็นหลักสูตรการศึกษา 1 ปี เมื่อเรียนจบแล้วสามารถเรียนต่อในระดับสูงขึ้นไปได้
|
|
2. |
National Certificate/Diploma (NC/ND) |
|
|
เป็นการศึกษาในสายวิชาชีพที่ทีคุณวุฒิสูงกว่า FC/FD ใช้ระยะเวลาในการศึกษา 2 ปี โดยรับผู้ที่มีคุณวุฒิ FC/FD หรือประกาศนียบัตร GCSE อย่างน้อย 4 วิชา ผู้ที่จบการศึกษาระดับ NC/ND นี้ นอกจากจะมีวุฒิบัตรวิชาชีพแล้ว ยังเทียบได้กับ GCE "A" Level ด้วย และหากได้คะแนนดีมาก
ก็สามารถเรียนต่อในระกับปริญญาตรีได้ด้วย
|
|
3. |
Higher National Certificate/Diploma (HNC/HND) |
|
|
เป็นการศึกษาในระดับสูงสุดของระดับอาชีวศึกษา ใช้ระยะเวลาในการเรียน 2 ปี และถือว่าการศึกษาในระดับนี้เป็นการศึกษาในระดับอุดมศึกษาด้วยเช่นกัน หลักสูตรนี้รับสมัครผู้ที่จบการศึกษา NC/ND หรือผู้มีคุณวุฒิ GCSE 3 วิชา + GCE "A" Level 1 วิชา ผู้ที่จบการศึกษาระดับนี้เทียบเท่ากับ อนุปริญญาของไทยแต่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี 1 ชั้น ทั้งนี้สามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โดยใช้เวลาศึกษาอีก 2 ปี แต่ผลการเรียนจะต้องอยู่ในขั้นดีเยี่ยม
|
|
|
สถาบันอาชีวศึกษาของเอกชน |
ควรเลือกสถานศึกษาเอกชนที่ได้รับการรับรองวิทยฐานะจาก The British accreditation council for Further and Higher Education (BAC) ซึ่งเป็นหลักประกันว่าเป็นสถาบันที่มีการเรียนการสอนที่เชื่อถือได้ สำหรับวุฒิการศึกษาที่ได้รับ จะได้เพียงประกาศนียบัตรเท่านั้น
|
|
|
ระดับอุดมศึกษา (Higher Education) |
หลักสูตรระดับอุดมศึกษา สามารถแบ่งออกเป็น
|
Undergraduate |
|
• |
BTEC HNC/HND หรือ Diploma of Higher Education (Dip. HE) เป็นหลักสูตร 2 ปี ส่วนใหญ่จะเปิดสอนอยู่ใน College of Higher Education โดยมหาวิทยาลัยบางแห่ง รับเปิดรับผู้สอบ "A" Level อย่างน้อย 1 วิชา หรือสำเร็จการศึกษาระดับ National Diploma การสมัครเข้าศึกษาต่อนั้นต้องสมัครผ่าน UCAS เช่นเดียวกับในระดับปริญญาตรี |
|
• |
First Degree (Bachelor Degree) เป็นหลักสูตรการศึกษา 3 ปี ยกเว้นบางสาขาวิชา เช่น วิศวกรรมศาสตร์ (4 ปี) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี) ทันตแพทย์ (5 ปี) สัตวแพทย์ (5 ปี) แพทย์ (6 ปี) |
|
|
|
|
Post - Graduate การศึกษาในระดับสูงกว่าระดับปริญญาตรีแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
|
|
• |
Post - Graduate Certificate Diploma หลักสูตรการศึกษา 9 เดือนถึง 1 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีเข้าศึกษาต่อ |
|
• |
Master Degree หลักสูตรการศึกษา 1-2 ปี รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนดี |
|
• |
Doctoral Degree หลักสูตรการทำวิจัย ใช้เวลาในการศึกษา 3 ปี มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร M. Phil |
|
|
|
สถาบันสอนภาษา |
มีสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่เป็นของเอกชน และสถาบัน อาชีวศึกษา อยู่ทั่วไปเปิดสอนหลักสูตรทั้งระยะสั้น อย่างน้อย 4 อาทิตย์ และระยะยาว คือ 1 ปี
เปิดรับนักศึกษาใหม่ตลอดทั้งปี ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน หรือ เพื่อใช้สอบ TOEFL หรือ IELTS รวมถึงหลักสูตรระยะสั้นสำหรับ Business Course ต่างๆ
|
|